โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
หรือโรคชิคุนกุนยา (Chikungunya) มีรายงานพบครั้งแรกในประเทศแทนซาเนีย
ทวีปแอฟริกา ในช่วงพ.ศ. 2495-2496 ชื่อโรค
ชิคุนกุนยา มาจากภาษาสวาฮิลี ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของทวีปแอฟริกา หมายถึง
เจ็บจนตัวงอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพคนไข้ที่เจ็บปวดจากโรคนี้ สำหรับในประเทศไทยมีการตรวจพบครั้งแรกพร้อมกับที่มีไข้เลือดออก
ระบาด และเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย เมื่อ พ.ศ. 2501 โดย Prof. W McD Hamnon แยกเชื้อชิคุนกุนยา
ได้จากผู้ป่วยโรงพยาบาลเด็ก กรุงเทพมหานคร
โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
เป็นโรคติดต่อนำโดยแมลงที่เกิดจากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา (Chikungunya
virus) ซึ่งเป็น RNA virus
มียุงลายบ้าน (Aedes
aegypti) และยุงลายสวน (Aedes albopictus) เป็นพาหะนำโรค อาการเริ่มแรกคล้ายกับโรคไข้เลือดออก
(Dengue
Fever) แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด
จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากจนถึงมีการช็อก สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี
แต่จะพบมากในฤดูฝน ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการไข้สูง ปวดข้อ
ข้อบวมหรือข้ออักเสบร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผื่นหรืออ่อนเพลีย
(แม้ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะไม่เสียชีวิต
แต่ทรมาน) ไม่มีการรักษาเฉพาะ
ใช้การรักษาตามอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน ร่วมกับป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ความแตกต่างระหว่างโรคไข้ปวดข้อยุงลาย กับโรคไข้เลือดออก
2. ระยะของไข้สั้นกว่าในโรคไข้เลือดออก
ผู้ป่วยที่มีระยะไข้สั้นเพียง 2
วัน พบใน โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ได้บ่อยกว่าใน โรคไข้เลือดออก โดยส่วนใหญ่ไข้ลงใน
4 วัน
3. ถึงแม้จะพบจุดเลือดได้ที่ผิวหนัง
และการทดสอบทูนิเกต์ให้ผลบวกได้
แต่ส่วนใหญ่จะพบจำนวนทั้งที่เกิดเองและจากทดสอบน้อยกว่าใน โรคไข้เลือดออก
4. ไม่พบ จุดเลือดออกที่ผิวหนัง (convalescent petechial rash) ที่มีลักษณะวงขาวๆใน
โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
5. พบผื่นได้แบบ maculopapular rash และ เยื่อบุตาอักเสบ
(conjunctival infection) ใน โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ได้บ่อยกว่าใน
โรคไข้เลือดออก
6. พบ ภาวะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ / ปวดข้อ (myalgia /
arthralgia) ใน โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ได้บ่อยกว่าใน โรคไข้เลือดออก
7. ในโรคไข้ปวดข้อยุงลาย เนื่องจากไข้สูงฉับพลัน
พบการชัก ร่วมกับไข้สูงได้ถึง 15%
ซึ่งสูงกว่าในโรคไข้เลือดออก ถึง 3 เท่า
สถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
ปัจจุบัน สถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
ประเทศไทย รายงานโดย กองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม
- 25 สิงหาคม 2563 พบผู้ป่วยสะสมรวม 7,396 ราย จาก 69 จังหวัด อัตราส่วนเพศชายต่อเพศหญิงเท่ากับ 1:1.3 ไม่มีผู้เสียชีวิต พบได้ทุกกลุ่มอายุ สูงสุดในกลุ่มอายุ
25-34 ปี (อัตราป่วย 13.92 ต่อประชากรแสนคน ) สัดส่วนอาชีพรับจ้างสูงสุด ร้อยละ 25.16 ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ
ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ส่วนจังหวัดที่มีผู้ป่วยสูงในช่วง
4 สัปดาห์ที่ผ่านมา คือ จันทบุรี อุทัยธานี กรุงเทพมหานคร ลำพูน และเชียงใหม่
ตามลำดับ นอกจากนี้จากรายงานดังกล่าวข้างต้นได้ชี้ให้เห็นว่า
จำนวนผู้ป่วยสะสมของปีนี้สูงกว่าในปีทีผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน 1 เท่า แต่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
มีจำนวนผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกันถึง 3
เท่า และข้อมูลปีนี้ยังสูงกว่าค่ามัธยฐาน (median)
5 ปีย้อนหลังถึง 143 เท่า มีพื้นที่ระบาดใหม่ทั้งหมด 22 จังหวัด 52 อำเภอ ปัจจุบันมีการระบาดเกือบทุกจังหวัดก็ว่าได้ จะเห็นได้ว่า
โรคไข้ปวดข้อยุงลายนี้มีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
พบผู้ป่วยกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จึงเป็นโรคระบาดที่เราควรให้ความสำคัญ
โดยเฉพาะในฤดูฝน ที่มีน้ำขัง ทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ได้ให้คำแนะนำสำหรับประชาชนในการป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือ
การจัดการสิ่งแวดล้อมภายในบ้านและนอกบ้าน และการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ด้วยมาตรการ
3
เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ เก็บบ้าน เก็บขยะ และเก็บน้ำ
เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายซึ่งเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก
โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา
รวมถึงการป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัดด้วยการทายากันยุง กำจัดยุงในบ้าน
และนอนกางมุ้ง กรมควบคุมโรค ได้แนะนำว่า ยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำโรคที่สามารถพบได้ทุกจังหวัด
สถานพยาบาลทุกแห่งควรมีการเฝ้าระวังโรคไข้ปวดข้อยุงลายในโรงพยาบาล
โดยการคัดกรองผู้ป่วยที่มาด้วยอาการ ไข้ ปวดข้อ มีผื่น หรือมีอาการคล้ายไข้เลือดออกแต่เกล็ดเลือดอยู่ในระดับปกติ และเมื่อพบผู้ป่วยควรรายงานผู้สงสัยหรือผู้ป่วยต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อการลงควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว
หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422”
แหล่งข้อมูล:
บทความน่าสนใจคะได้รับความรู้เรื่องโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ ดีคะจะได้เฝ้าระวังยุงคะช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวันคะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ ที่สนใจ ที่เขียนบทความนี้เนื่องจากต้องการให้พวกเรา ระวังป้องกัน เพราะมีผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มขึ้นมาก และมีพาหะคือยุงลายเช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก แต่เกิดจากไวร้สคนละชนิด แม้ว่าโรคนี้ไม่ทำให้เสียชีวิตแต่ทรมาน ปวดข้อมากค่ะ
ตอบลบ