ความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) คืออะไร ในยุค โควิด-19

ความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) คืออะไร ในยุค โควิด-19 

            คำว่า New Normal หรือ ความปกติในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจเรียกว่า บรรทัดฐานใหม่ หรือ ปรากฏการณ์ใหม่ เราได้ยินบ่อยขึ้นในยุค โควิด-19 แต่คิดว่าหลายๆท่านอาจจะเพิ่งได้ยิน แล้วทำไมถึงเราได้ยินคำนี้กันบ่อยเมื่อมีการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ทั่วโลก แล้ว คำว่า New Normal เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไร คงเป็นข้อสงสัยของหลายๆท่าน  New Normal ในยุค โควิด-19 จะมีอะไรบ้าง น่าจะเป็นคำถามตามมา จริงๆทุกท่านต้องบอกได้แน่นอน เพราะพวกเราชาวโลกได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกหลายๆด้านทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของคนในสังคมในยุคโควิด-19 ซึ่งมีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม เราไม่ทราบว่า ยุคโควิด-19 จะสิ้นสุดเมื่อไร แต่เราคงต้องปรับตัว เพื่อการป้องกันให้ดีที่สุด

ที่มาของคำว่า New Normal

New Normal คำนี้รู้จักและใช้ครั้งแรกในด้านธุรกิจ และเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ (ในประเทศไทยอาจเรียกว่า วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์) ในปี พ.ศ. 2550-2551 และต่อมาเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ในปี 2551-2555  โดย Bill Gross นักลงทุนในตราสารหนี้ชื่อดัง (bond guru) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Pacific Investment Management (PIMCO) เป็นผู้ให้นิยามคำนี้ หมายถึง สถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ได้เป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจเดิม เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ที่เป็นตัวกำหนดการเติบโตทางเศรษฐกิจมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป เช่นปัจจัยโครงสร้าง หรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในลักษณะที่แตกต่างจากในอดีต  ปัจจุบัน คำว่า New Normal ใช้ในหลายๆด้าน ซึ่งบ่งบอกถึง เรื่อง หรือบางสิ่งบางอย่าง ที่แต่ก่อนเป็นสิ่งที่ผิดปกติแล้วกลายมาเป็นเรื่องธรรมดา

 New Normal ในยุค โควิด-19 มีอะไรบ้าง

          การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 เป็นวิกฤติที่บีบบังคับให้ประชากรโลกต้องเปลี่ยนพฤติกรรม วิถีชีวิต เพื่อความอยู่รอด จากศัตรูที่มองไม่เห็น หรือเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ติดต่อโดยระบบทางเดินหายใจ ซึ่งถือเป็นโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และยารักษา ในขณะนี้กำลังพัฒนาวัคซีน ส่วนยากำลังผลิต และพัฒนากันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีประสิทธิผลดียิ่งๆขึ้น

New Normal หรือ ความปกติในรูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นนี้ในยุคโควิด-19 เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกหลายๆด้านทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของคนในสังคมในยุคโควิด-19 พอจะสรุปได้ดังนี้

1.      ด้านความปลอดภัย เป็นการป้องกันตนเองให้ปลอดเชื้อ ซี่งทุกคนปฏิบัติเป็นประจำในขณะนี้ คือ พยายามอยู่บ้าน และออกจากบ้านเมื่อจำเป็น สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อออกนอกบ้าน และเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เช่น ยืน นั่งห่างกัน 1.5 – 2 เมตร เป็นต้น มีการใช้ 70% แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดมือ พกเจลแอลกอฮอล์ ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมในการทำความสะอาด สิ่งของ และอุปกรณ์ต่าง เพื่อฆ่าเชื้อ ล้างมือบ่อยๆ การปฏิบัติเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะปฏิบัติในระดับบุคคล แต่นำไปปฏิบัติในสังคม ทำให้เป็นสังคมที่ปลอดเชื้อด้วย เช่น การรณรงค์ในเรื่องความสะอาดถูกสุขลักษณะในที่สาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถสาธารณะ การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในที่สาธารณะ จะต้องมีการตรวจเช็คป้องกันคนไม่สบายในการร่วมกิจกรรม หรือมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าร้านต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น

2.      ปัจจัยสี่ ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ คือ  อาหาร ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม มีความสำคัญอย่างเด่นชัดในยุคโควิด-19 นี้ เห็นได้จาก เมื่อมีการประกาศ เคอร์ฟิว จะมีการกักตุนสินค้าอุปโภค บริโภค โชคดี ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานด้านเกษตรกรรม มีความอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นครัวโลก ดังนั้นจึงไม่เดือดร้อนเรื่องอาหารการกิน  อุตสาหกรรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยสี่ โดยเฉพาะ อาหาร และยารักษาโรค จะเป็นความต้องการที่สำคัญ เช่น หน้ากากอนามัย อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หรือ Personal Protective Equipment (PPE) แอลกอฮอล์ ซึ่งขาดแคลนทั่วโลก  

3.      การพึ่งตนเอง และการออม จะนำมาใช้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ระดับบุคคล ระดับครอบครัว จนถึงสังคมโลก สำหรับในระดับบุคคล หรือครอบครัว เช่น การตัดผม การเสริมสวย การทำอาหาร การซัก-รีดเสื้อผ้า จะกลับมาทำเอง โดยไม่รับบริการ ส่วนสินค้าและการบริการที่ฟุ่มเฟือยจะลดลง มีการออมเพิ่มขึ้น สินค้าฟุ่มเฟือยจะไม่นิยม ส่วนในสังคมโลก จะเห็นได้ว่า ประเทศที่ผลิตสินค้าจำเป็นจะได้เปรียบ เนื่องจาก สามารถผลิตได้ทันที เมื่อมีความต้องการ เช่น โรงงานผลิตหน้ากากอนามัย การผลิตเครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น

4.      กิจกรรมด้านการให้บริการต่างๆ จะจำกัดผู้มารับบริการโดยตรงมากขึ้น เช่น การบริการตัดผม เสริมสวย ร้านอาหาร จะต้องมีการนัดหมาย เพื่อลดความเสี่ยงในการรวมตัวกัน

5.      สังคมออนไลน์ จะขยายตัวอย่างมากมาย เช่น การทำงาน แบบ Work from home (WFH) เป็นรูปแบบการทำงานที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต การทำงานแบบออนไลน์ รวมทั้งการประชุมออนไลน์ และการสัมมนา ทำให้พื้นที่สำนักงานใหญ่ๆอาจไม่จำเป็น การเรียนการสอนออนไลน์ จะนำมาใช้ ทำให้มีการลดกำลังพลในการทำงานลง

6.      ระบบธุรกิจ การซึ้อขายออนไลน์จะขยายตัวอย่างกว้างขวาง และมีความสำคัญมากขี้น ผู้ซื้อและผู้ขายหรือผู้ผลิตจะสามารถติดต่อกันได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้คนกลาง ร้านค้าเริ่มมีการปรับตัวเข้าสู่โลกออนไลน์ ทำให้คนเคยชินกับการไม่เข้าหน้าร้าน ทำให้ร้านค้าจะมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะ ร้านอาหาร นอกจากนี้ ธุรกรรมต่างๆ ของธนาคารพาณิชย์ จะถูกโอนไปอยู่บน “โมบายแบงกิ้ง” ดังนั้น สื่อสังคมออนไลน์จะมีอิทธิพล และความจำเป็นต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์

7.      การคิดค้นนวัตกรรมต่างๆในด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เช่น การพัฒนาวัคซีน พัฒนายา การพัฒนาน้ำยาชุดตรวจการติดเขื้อ การพัฒนาห้องปฏิบัติการชนิด negative pressure ห้อง clean room การคิดค้นหุ่นยนต์ใช้ในการแพทย์ สามารถสร้างได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การรักษาได้เร็วขี้น มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น การสาธารณสุขได้พัฒนาอย่างชัดเจน ประชากรโลกเห็นความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นการแพทย์จึงมีความสำคัญในการดำรงอยู่ของมนุษยชาติในสังคมโลก ที่จำเป็นที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง และเร่งด่วน